มีการเปิดตัวกาแฟและไวน์ผสมกันในสหรัฐอเมริกา

วีดีโอ: มีการเปิดตัวกาแฟและไวน์ผสมกันในสหรัฐอเมริกา

วีดีโอ: มีการเปิดตัวกาแฟและไวน์ผสมกันในสหรัฐอเมริกา
วีดีโอ: ภัยใหม่! "อีผสมกาแฟ" ป.ป.ส.สั่งล่าตัวคนขาย | 03-11-64 | ข่าวเช้าหัวเขียว 2024, ธันวาคม
มีการเปิดตัวกาแฟและไวน์ผสมกันในสหรัฐอเมริกา
มีการเปิดตัวกาแฟและไวน์ผสมกันในสหรัฐอเมริกา
Anonim

บริษัท Fun Friends Wine สัญชาติอเมริกัน ได้เปิดตัวกาแฟและไวน์ที่ผสมผสานกันอย่างผิดปกติ การผสมผสานที่น่าสนใจมีให้ในชื่อ Cabernet Espresso Buckets และ Chardonnay Cappuccino Buckets

บริษัทกล่าวว่าการผสมผสานที่ผิดปกติเป็นเครื่องดื่มที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ดื่มไวน์เพียงเล็กน้อย แต่ไม่อยากรู้สึกเหนื่อยในภายหลัง

บริษัทในฟลอริดาต้องการผลิตเครื่องดื่มตอนเช้าและเย็นที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบ

ในอเมริกา พวกเขาส่งเสริมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำเป็นทางเลือกแทนเบียร์ ซึ่งรวมถึง Red Sangria, Rose Muscat, White Muscat, Strawberry Muscat, Peach Muscat และตอนนี้ Cabernet Espresso Buckets และ Chardonnay Cappuccino Buckets

กาแฟ
กาแฟ

“เราภูมิใจที่ได้เป็นบริษัทแรกที่เปิดตัว Fun Wine ในสายการผลิต Pitcher และเราแทบรอไม่ไหวที่จะแนะนำกาแฟสายพันธุ์ใหม่ให้กับแฟน ๆ ที่รักความสนุกสนานของเรา” Joe Peleg ผู้อำนวยการบริษัทกล่าว

อย่างไรก็ตาม เครื่องดื่มใหม่ของชาวอเมริกันนั้นขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับการศึกษาล่าสุดโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ซึ่งพบว่าแม้แต่แอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยก็เป็นอันตราย

ในการศึกษาของพวกเขา ผู้เชี่ยวชาญชาวอังกฤษปฏิเสธข้ออ้างที่ว่าไวน์หนึ่งหรือสองแก้วหรือแอลกอฮอล์บางชนิดนั้นดีต่อสุขภาพ

ตามที่พวกเขากล่าวว่าแม้แต่เบียร์หนึ่งแก้วหรือไวน์สองแก้วก็สามารถทำลายร่างกายได้ อย่างไรก็ตามหากบุคคลลดการดื่มแอลกอฮอล์ก็ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูง

ไวน์
ไวน์

ตามที่นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษในการศึกษาก่อนหน้านี้ซึ่งสรุปว่าการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระดับปานกลางนั้นมีประโยชน์ ไม่มีการเสนอข้อโต้แย้งทางชีววิทยาที่เพียงพอ

ศาสตราจารย์ Casas แห่ง University College London เชื่อว่าผู้ดื่มไม่ได้แบ่งปันอย่างเต็มที่กับแพทย์และนักวิจัยว่าตนดื่มแอลกอฮอล์มากแค่ไหน

ในการศึกษาของอังกฤษ นักวิจัยมองเฉพาะคนที่มียีนอนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น

ผลการศึกษาสรุปได้ว่าไม่มีแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะมีปริมาณเท่าใดซึ่งดีต่อสุขภาพ