2024 ผู้เขียน: Jasmine Walkman | [email protected]. แก้ไขล่าสุด: 2023-12-16 08:38
ตำนานและตำราโบราณทั้งหมดบอกเกี่ยวกับอาหารที่ผู้คนเริ่มใช้ในเมนูของพวกเขาเป็นครั้งแรก สิ่งเหล่านี้มักจะเป็นของขวัญจากธรรมชาติที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเพาะเลี้ยงอาหารมนุษย์ หนึ่งในนั้นคือต้นมะเดื่อ
ผลไม้ที่อร่อยอย่างเหลือเชื่อได้รับการกล่าวถึงมาตั้งแต่สมัยโบราณ นิทานในตำนานของของขวัญจากธรรมชาติแห่งฤดูใบไม้ร่วงอ้างว่าเทพธิดา Demeter เป็นผู้ค้นพบ ต้นมะเดื่อ และในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ต้นมะเดื่อก็ยังคงศักดิ์สิทธิ์ อุปมาในพระคัมภีร์อีกเรื่องหนึ่งรับรองว่า รูปที่ เป็นผลไม้ต้องห้ามของอีฟ ไม่ใช่แอปเปิ้ล
เรื่องนี้จริงหรือไม่ เราเดาได้ แต่พระคัมภีร์รู้ มะเดื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรือง และได้ยึดครองสถานที่สำคัญทางความคิดแบบโบราณ มิทริเดต กษัตริย์แห่งปอนทัส รักผลไม้มากจนสั่งให้ทุกคนกินผลมะเดื่อทุกวัน เพราะมันเป็นยารักษาโรคทุกชนิด
มะเดื่อนอกจากจะอร่อยแล้วยังมีประโยชน์มากอีกด้วย ปริมาณไฟเบอร์ในพวกมันทำให้ดีต่อกระบวนการย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยล้างคอเลสเตอรอลในทางเดินอาหารและส่งไปยังลำไส้เพื่อกำจัดที่นั่น
มะเดื่อช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์และทำให้สุขภาพหัวใจดีขึ้น
ผลไม้นี้มีสารเพกติน และเป็นที่ทราบกันดีว่าควบคุมคอเลสเตอรอลให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ยังแนะนำสำหรับโรคหวัด ไอ และโรคหอบหืด
นอกจากไฟเบอร์และเพคตินแล้ว มะเดื่อยังมีน้ำตาลอยู่เล็กน้อยและมีประโยชน์ในฐานะตัวควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แคลอรี่ในนั้นมาจากน้ำตาลธรรมดาที่ย่อยสลายได้ง่าย
แคลเซียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียมในมะเดื่อช่วยรักษาสุขภาพของกระดูก จากการศึกษาชิ้นหนึ่ง สารสกัดมะเดื่อมีประโยชน์ต่อผิวที่มีริ้วรอย ด้วยเหตุนี้จึงถูกนำมาใช้ในเครื่องสำอาง
เนื้อหาของธาตุเหล็กและแมงกานีสทำให้ผลไม้ที่แนะนำสำหรับภาวะโลหิตจาง เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาระบาย จึงใช้กับอาการท้องผูกได้ด้วย
ใช้ผลไม้สดและแห้งเพื่อการบริโภค เมื่อแห้งองค์ประกอบจะเปลี่ยนไป เปอร์เซ็นต์ของน้ำลดลง แต่น้ำตาล เพคติน แร่ธาตุ และกรดออกซาลิกเพิ่มขึ้น ผลไม้แห้งยังมีวิตามินมากมาย
เนื่องจากมีประโยชน์และการใช้งานที่หลากหลาย มะเดื่อมีชื่อเสียง และเป็นผลแห่งการมีอายุยืนยาว