2025 ผู้เขียน: Jasmine Walkman | [email protected]. แก้ไขล่าสุด: 2025-01-23 10:33
1. ในแง่ของปริมาณวิตามินซี พริกดีกว่ามะนาวและลูกเกดดำ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่ากรดแอสคอร์บิกส่วนใหญ่อยู่รอบๆ ก้าน ซึ่งเป็นส่วนที่เราตัดและทิ้งเมื่อทำความสะอาดเมล็ด
2. วิตามินซีรวมอยู่ในพริกที่มีวิตามินพี (รูติน) จำนวนมากซึ่งช่วยเสริมสร้างหลอดเลือดและลดการซึมผ่านของผนัง
3. ในพริกมีโปรวิตามินเอมากกว่าในแครอท การใช้พริกทุกวัน 30-40 กรัมช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ช่วยเพิ่มการมองเห็น สภาพผิว และเยื่อเมือกในร่างกาย
4. พริกยังอุดมไปด้วยวิตามินบีและพีพี ดังนั้นผู้ที่ทุกข์ทรมานจากภาวะซึมเศร้า เบาหวาน บวมน้ำ ผิวหนังอักเสบ รวมถึงความจำเสื่อม นอนไม่หลับ และเมื่อยล้าควรรวมไว้ในอาหารด้วย
5. พริกร้อนช่วยให้การไหลเวียนในสมองเป็นปกติและป้องกันหลอดเลือด พวกเขายังบรรเทาอาการหอบหืด ไอ เจ็บคอและไข้หวัดใหญ่
![พริก พริก](https://i.healthierculinary.com/images/004/image-10486-1-j.webp)
6. เนื่องจากโพแทสเซียมและเกลือโซเดียมมีปริมาณสูง รวมทั้งธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก สังกะสี ไอโอดีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม พริกจึงขาดไม่ได้ในภาวะโลหิตจาง ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หัวล้านในระยะแรกและโรคกระดูกพรุน
7. พริกสามารถใช้เป็นพื้นฐานในการบำรุงมาสก์เครื่องสำอางได้ ขูดพริกบนเครื่องขูดพลาสติกและ 1 ช้อนชา ของโจ๊กผสมกับครีมและไข่ในปริมาณเท่ากัน ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ 20-30 นาที ล้างด้วยน้ำอุ่น
8. องค์ประกอบของพริกประกอบด้วยอัลคาลอยด์แคปไซซินซึ่งให้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ สารกระตุ้นกระเพาะอาหาร กระตุ้นความอยากอาหาร ลดความดันโลหิต ทำให้เลือดบางลง และป้องกันการก่อตัวของลิ่มเลือด
![ประเภทของพริก ประเภทของพริก](https://i.healthierculinary.com/images/004/image-10486-2-j.webp)
9. พริกร้อนสามารถรวมอยู่ในองค์ประกอบของขี้ผึ้งร้อนและแพทช์สำหรับโรคไขข้ออักเสบ, โรคข้ออักเสบ, โรคประสาทและอาการปวดรูมาติก
10. พริกเผ็ดช่วยชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะในเนื้องอกในรังไข่